วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Profile

ชื่อ นางสาว วราภรณ์  นิลสนธิ   ชื่อเล่น พลอย
วันเกิด  อาทิตย์ 26 ธันวาคม  2536 อายุ 18 ปีระกา
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  เวลา  01.45
สถานภาพ  โสด
ศาสนา  พุทธ
ส่วนสูง น้ำหนัก  165 cm 50 kg
ที่อยู่  29/2 หมู่17 ตำบลคลองหนึ่ง  อำเภอคลองหลวง  จังหวัด ปทุมธานี 12120
เบอร์โทรศัพท์ 0839744217  ทรูมูฟ 
E-mail   ployyoyul@hotmail.com
งานอดิเรก  อ่าน หนังสือ
คติประจำใจ  คนสวยถูกเสมอ

 

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Chocolate-Dipped Strawberries

Chocolate-Dipped Strawberries



ช็อคโกแล็ตดิปสตอร์วเบอร์รี่

สตอร์วเบอร์รี่สด ๕๐๐ กรัม
Bittersweet หรือsemi-sweet chocolate อย่างดี ๑๒ ออนซ์

สตอร์วเบอร์รี่ เลือกซื้อลูกสวยๆใบที่ติดอยู่ยังสีเขียวสด
ล้างทำความสะอาด ใช้ผ้าซับน้ำออกให้แห้ง ทำด้วยความเบามือนะคะ
สตอร์วเบอร์รี่จะได้ไม่ช้ำ ถ้าน้ำยังติดอยู่เวลาดิปจะไม่ติดช็อคโกแล็ตค่ะ




ช็อคโกแล็ต




ขั้น ตอนการทำ
ตุ๋นช็อคโกแล็ตด้วยวิธีdouble boiler คือเอาน้ำใส่หม้อ
แล้ว เอาอ่างวางซ้อนลงบนหม้อ โดยไม่ให้หม้อโดนน้ำ
และไม่ให้น้ำเดือดปุดๆ เดี๋ยวไอน้ำพุ่งขึ้นมาจะลวกมือเอา
เอาแค่พอให้น้ำร้อนก็พอค่ะ เอาช็อคโกแล็ตใส่ในอ่างที่วางซ้อนอยู่บนหม้อ
สักพักช็อคโกแล็ตก็จะเริ่ม ละลาย ใช้ไม้พายคนไปเรื่อยๆ
เมื่อช็อคโกแล็ตละลายดีแล้ว ก็ชุปผลไม้ที่ชอบได้เลยค่ะ
ไม่ต้องเอาอ่างออกจากหม้อนะคะ ช็อคโกแล็ตจะได้เหลวอยู่จะได้ดิปง่ายๆ




ยกใบสตอร์วเบอร์รี่ขึ้น ทำด้วยความเบามือนะคะ
จุ่มสตอร์วเบอร์รี่ลงในอ่าง ช็อคโกแล็ต
จะให้สวยงามเหลือส่วนสีแดงๆของสตอร์วเบอร์รี่ไว้ด้วยนะคะ
ถ้า ใครจะโรยด้วยถั่วต่างๆก็โรยได้เลยค่ะโรยนิดเดียว เลยไม่มีรูปถั่วมาให้ชมด้วย



ยก ขึ้นมาแล้ววางลงบนถาดที่ปูด้วยกระดาษไข



ทำ ไปจนหมด ทิ้งไว้ให้เย็นช็อคโกแล็ตจะแข็งตัว
หรือจะให้ช็อคโกแล็ตแข็งตัว เร็วขึ้น ใบสตอร์วเบอร์รี่เป็นสีเขียวสวย
ก็เอาแช่ตู้เย็นไว้เลยก็ได้ค่ะ แป๊บเดียวช็อคโกแล็ตก็แข็งตัว
จากนั้นถ้าจะนำไปมอบให้ใครก็จัดใส่กล่อง ผูกโบว์สวยๆ



จับใส่ตู้เย็น แป๊บเดียวช็อคโกแล็ตก็แข็งตัวค่ะ
ค่อยๆแกะออกจากกระดาษ ไข รับประทานทันที
หรือนำไปเป็นของฝากได้ค่ะ



ขอเชิญอร่อยได้แล้วค่ะ





เครปเค้ก(crepes cake)

เครปเค้ก(crepes cake)



                                                                                                                                     เครปเค้กสูตรนี้สูตรมาจาก นิวยอร์คไทม์ ชื่อนี้เชื่อใจได้ในระดับสูง
ยังไงถ้าเพื่อนๆสนใจอ่านรายละเอียด ตามลิงค์ไปได้เลยค่ะ
 

วานิลาเพสทรี้ครีม                                                                                                          นมสดจืด ๒ ถ้วยตวง
วานิลาแอ็คแทร็ค ๑ ช้อนชา
ไข่แดงของไข่ไก่ ๖ ฟอง
น้ำตาล ๑/๒ ถ้วยตวง
แป้งข้าวโพด ๑/๓ ถ้วยตวง
เนยจืดเย็นหั่นเล็กๆ ๓ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ





วิธีทำ
1.ต้มนมพอร้อน ใส่วานิลาแอ๊คแทรคลงไปพักไว้ก่อน
2.ผสม ไข่แดงทั้งหมดลงในอ่างผสม พร้อมด้วย น้ำตาล และแป้งข้าวโพด
ใช้ตะกร้อมือ คนส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลวๆ
จากนั้นค่อยๆเทนมที่ยังอุ่นๆ อยู่ลงไปในอ่างไข่ ใช้ตะกร้อมือรีบคนส่วนผสม
ส่วนผสมจะได้ไม่เป็นก้อน เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว เทส่วนผสมกลับลงไปในหม้อนมใบเดิม






3.กวน ส่วนผสมด้วยไฟปานกลางค่อนข้างอ่อนจนส่วนผสมสุกและข้น
พอเห็นส่วนผสมสุก และข้นดีก็ยกลงจากเตาได้เลยค่ะ อย่ากวนนาน
เพราะว่าเวลาครีมเย็นตัวจะจับ ตัวกันแข็งมากเกินไปทำให้ปาดเครปยาก
เมื่อยกลงจากเตาแล้วก็ใส่เนยเย็นลง ไปเลยค่ะ คนให้เนยละลายเข้ากันส่วนผสม




เครปเบทเทอร์                                                                                                                 เนย ๖ ช้อนโต๊ะ
นม สดจืด ๓ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ ๖ ฟอง
แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
เกลือหนึ่งหยิบมือ






วิธีทำเครป
1.ละลายเนยในหม้อใบเล็กๆ จนเนยกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นหอม
ใครจะละลายเนยเฉยๆก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าให้เนยเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ
กลิ่นจะหอมมาก แทบละเมอเพ้อพกไปเลยขนาดนั้น ใช้ไฟกลาง ห้ามไหม้




2.เอา นมใส่หม้อตั้งไปกลาง ให้นมพอร้อน ไม่ต้องให้เดือด แล้วพักไว้ก่อน
3.ผสม แป้ง ไข่ น้ำตาล รวมกันในเครื่องมิกซ์เซอร์ ตีด้วยสปีดต่ำพอส่วนผสมเข้ากัน
ใคร จะใช้เครื่องปั่นก็ได้ค่ะ แต่บางทีต้องระวังนิดนึง เพราะเครื่องปั่นบางทีจะแรงมาก
เหมือนเครื่องปั่นแม่ปูที่ใช้อยู่ตอนนี้ เครื่องแรงมาก ปั่นแป๊บเดียวเวลาเอาเครปไปทอด
มีความรู้สึกว่าเนื้อเครป จะแน่นๆ เหนียวๆ ไม่อร่อย เป็นเพราะตีแป้งมากเกินไปนั่นเอง



ตี ไปค่ะ แป๊บเดียวเท่านั้น พอให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นอันใช้ได้




4.ทอด เครป โดยใช้กระทะเทฟล่อนขนาด ๘ นิ้ว
ตักส่วนผสมครั้งละ ๑/๔ ถ้วยตวง ทอดไปจนหมด
ทอดครั้งแรกอาจจะทากระทะด้วยน้ำมันหรือเนยสักเล็กน้อย
พอ เคลือบกระทะ ชิ้นต่อๆไปก็ไม่ต้องทาแล้วค่ะ เพราะเครปเรามีเนยแล้ว                                    เวลา ทอดตั้งกระทะให้ร้อน แต่ไฟไม่ต้องแรงมาก ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน
ตัก ส่วนผสมเทลงไปในกระทะ ให้ส่วนผสมละเลงไปทั่วกระทะขนาด ๘ นิ้ว



ทอด ไปประมาณ ๑ นาที พอตรงขอบๆเริ่มเป็นสีน้ำตาลก็กลับด้าน
ทอดเวลาสั้นๆราว ๕ วินาที ก็ตักออกจากกระทะได้


5.ประ กอบเครปเค้กเป็นชั้นๆ โดยปาดด้วยไส้ครีม
แต่ละชั้นใช้ครีมประมาณ ๓ ช้อนโต๊ะถึง ๑/๔ ถ้วย ทำไปจนหมด
ถ้าอยากให้เค้กเป็นชั้นสูงๆ ก็อาจจะผสมวิปครีมตามสูตรต้นฉบับได้


6.เมื่อ เค้กอยู่ตัวดีแล้ว เอาออกมาปาดวิปครีม และตกแต่งตามต้องการ






สไปเดอร์เว็บ ชีสเค้ก

สไปเดอร์เว็บ ชีสเค้ก



สไปเดอร์ เว็บชีสเค้ก

เปิดเตาอบไว้ที่ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮน์
เตรียมสปริง ฟอร์มขนาด ๙ นิ้วไว้ด้วยค่ะ

ส่วนครัสท์

คุ้กกี้รสช็อคโกแล็ตปั่นละเอียด ๑ ๑/๒ ถ้วย
เนยจืดละลาย ๑/๔ ถ้วย




ปั่นคุ้กกี้ในเครื่องฟู้ดโปรเซสเซอร์ให้ละเอียด
ใส่เนยละลายปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน
จากนั้นให้กรุส่วนผสมคุ้กกี้ที่ปั่นแล้วลงในพิมพ์สปริงฟอร์ม
กด  นำส่วนครัสท์ที่กรุใน พิมพ์แล้วแช่ช่องฟรีซไว้ประมาณ ๑๐-๑๕นาที
จากนั้นให้นำไปอบในเตาอบ นานประมาณ ๑๒-๑๓นาที
นำพิมพ์สปริงฟอร์มที่กรุครัสท์ออกจากเตาอบ
พัก ไว้ให้เย็น





ตัวเค้ก

เปิดอุณหภูมิในเตาอบ ๓๒๕ องศาฟาเรนไฮน์

ส่วนผสม      
           ครีมชีส ๓ ก้อน (ก้อนละ ๘ ออนซ์)
           ไข่ไก่ ๔ ฟอง (ไข่ไก่อเมริกาเปลือกสีขาวค่ะ)
           น้ำตาลทราย ๑ ถ้วย
           เฮฟวี่วิป ปิ้งครีม ๑/๒ ถ้วย
           วานิลาแอ๊คแทรค ๑ ช้อนโต๊ะ
           แป้งสาลีเอนกประสงค์ ๓ ช้อนโต๊ะ
           เกลือ ๑/๔ ช้อนชา (ในรูปไม่มีค่ะ)
           English toffee bits ๑/๒ ถ้วย







1.ตี ครีมชีสทั้งสามก้อนด้วยสปีดกลางให้เนียน
แล้วใส่น้ำตาลลงไป ตีส่วนผสมให้เข้ากันจนเนียนดี



                                                                                                                                     2.ใส่ ริค็อตต้าชีสลงไปใช้ไม้พายคนๆสักหน่อยให้ชีสแตกตัว
แล้วจึงใช้ตะกร้อ ไฟฟ้าตีส่วนผสมให้เข้ากัน
จากนั้นค่อยๆใส่เฮฟวี่วิปปิ้งครีมลงไปตีส่วน ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
ทุกครั้งที่ผสมส่วนผสมใหม่ลงไป
ให้ตีส่วนผสม พอเข้ากันจนเนียนดีแล้วก็ให้หยุดตีนะคะ
แล้วก็ปาดขอบอ่างเป็นระยะๆ ส่วนผสมจะได้เข้ากันทั่วถึงดี





3.ใส่ แป้งสาลีเอนกประสงค์ลงไป ตีส่วนผสมด้วยสปีดต่ำ
พอส่วนผสมเนียนดีก็ตอกใส่ ไข่ลงไปทีละฟอง
ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งขั้นตอนนี้ใส่วานิลาและเกลือ ได้เลยค่ะ
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็ปาดขอบอ่างสักเล็กน้อย
จากนั้น จึงเทส่วนผสมที่ได้ ลงในสปริงฟอร์ม
ขั้นตอนนี้เทส่วนผสมชีสเค้กลงไปใน พิมพ์ครึ่งเดียวก่อนนะคะ






4.จาก นั้นเราค่อยโรยEnglish toffee bits ๑/๒ ถ้วยลงไปให้ทั่ว
อย่างที่แม่ปู บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะคะแล้วแต่ชอบ





5.เท ส่วนผสมครีมชีสที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งลงไปในพิมพ์




6.ขั้น ตอนต่อไปวางชีสเค้กบนถาดในใหญ่แล้วนำไปอบในเตาอบ
นาน ๑ ชั่วโมง ๑๕ นาที
หรือ เช็คดูหน้าชีสเค้กจะแห้งๆแล้ว
ใช้นิ้วแตะดูจะดึ๋งๆหน่อยค่ะ คล้ายเจลลี่
ขั้น ตอนนี้ใครจะวางสปริงฟอร์มบนถาด
ที่มีน้ำร้อนสูงประมาณ ๑ นิ้วก็ได้ค่ะ
แต่ ว่าต้องห่อสปริงฟอร์มด้วยกระดาษฟอร์ยด์
ให้เรียบร้อยก่อนกันน้ำเข้า แต่แม่ปูไม่ได้อบแบบใส่น้ำในถาด
ก็เลยไม่ได้ห่อพิมพ์ด้วยกระดาษฟอร์ยด์ ค่ะ
ปรกติแม่ปูอบชีสเค้กหน้าก็ไม่ค่อยแตกเท่าไหร่
แต่วันนี้อาจจะตี ส่วนผสมกับไข่นานเกินไปหน้าก็เลยแตกโพล๊ะเลย
แต่ว่าไม่เป็นไร เราจะราดท้อปปิ้งปกปิดริ้วรอยได้ค่ะ




ท้อปปิ้ง

          milk Chocolate ๘ ออนซ์
          คอร์นไซรับ ๑ ช้อนโต๊ะ(ไม่ใส่ก็ได้)
          เฮฟวี่วิปปิ้งครีม ๑/๓ ถ้วย
          ไวท์ช็อคโกแล็ต ๒ ออนซ์ (ช็อคโกแล็ตสีขาว)

วิธีทำ
พอชีสเค้กเย็นดี แล้ว เราก็มาทำท้อปปิ้งราดกันค่ะ
เอาชีสเค้กออกจากพิมพ์ให้เรียบร้อยรอ ไว้เลยค่ะ
ใส่น้ำลงในหม้อขนาดพอเหมาะที่สามารถซ้อนอ่างไว้ได้ด้านบน
เปิด ไฟในเตาแค่พออ่อนๆ ใส่ช็อคโกแล็ตลงไปในอ่างผสม
ที่วางซ้อนอยู่บนหม้อที่ มีน้ำร้อนแต่ว่าไม่เดือด
ใส่คอร์นไซรับลงไปในอ่างช็อคโกแล็ตเทเฮฟวี่วิป ปิ้งครีมลงไป
คนส่วนผสมให้เข้ากันและจนช็อคโกแล็ตละลาย










ขั้นตอนต่อไปละลายไวท์ช็อคโกแล็ตในไมโครเวฟ
โดยใส่ในถ้วยเล็กๆ ใช้เวลาละลายประมาณ ๒๐ -๓๐ วินาที
หรือจนกว่าจะละลาย พอช็อคโกแล็ตละลายคนให้เนียน
จึงเทใส่ถุงพลาสติก ตัดตรงมุมถุงออกให้เป็นรูเล็กๆ
พอที่เราจะบีบช็อคโกแล็ตออกมาเป็นเส้น เล็กๆได้


บีบถุงช็อคโกแล็ตสีขาวที่ละลายแล้วลงบนชีสเค้ก
โดย เริ่มจากกึ่งกลางของชีสเค้ก
บีบช็อคโกแล็ตวนเป็นวงกลมให้ทั่วเค้ก
บีบ โดยไม่ต้องหยุดพักนะคะ











Skype


  Skype คืออะไร ?


Skype (สไคป์) คือ โปรแกรมที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันระหว่างผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความพร้อม เสียงและภาพจากกล้อง Webcam โดยจะเป็นการสื่อสารกันแบบ Real Time ลักษณะจะคล้าย Windows Live Messenger หรือที่เราเรียก MSN แต่จะมีข้อดีเหนือกว่ามากในเรื่องของคุณภาพของภาพ และเสียง ซึ่ง Skype จะให้สัญญาณที่คมชัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนใหญ่แล้ว Skype จะนำมาใช้ทำ Video Conference เพื่อสนทนากันแบบตัวต่อตัว หรือประชุมสายพร้อมกันหลายคนผ่านอิน เทอร์เน็ตได้ทั่วโลก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงคุณมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว การเชื่อมต่อจะเป็นแบบ peer-to-peer voice over Internet protocol (VoIP) จุดเด่นของ Skype คือ การใช้งานเป็นโทรศัพท์ ที่โทรติดต่อผู้อื่นที่ไม่ได้ใช้ Skype ซึ่งโทรไปได้ทั้งเบอร์มือถือ และ เบอร์พื้นฐานทั่วไปได้ทั่วโลก โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นแบบเหมาจ่าย เป็นเดือน โดยสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงกับเว็บ
www.skype.com โดยกดปุ่ม BuyCredit ด้านบนขวาของหน้าเว็บแล้วทำการ Login ด้วย Username และ Password เดียวกันกับที่เราใช้งานโปรแกรม Skype เพื่อเข้าสู่การสั่งซื้อแพ็คเกจ โดยการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต 

(สมัครเครติดฟรี คลิ๊ก)
 


จุด เด่นของโปรแกรม Skype
- ดาวน์โหลดฟรี !
- ผู้ใช้บริการสามารถทำการโทรศัพท์ฟรีๆ ระหว่างสมาชิก ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก
- คุณภาพเสียงดีเยี่ยมเหมือนใช้โทรธรรมดา เสียงตอบกลับของคู่สนทนาชัดเจน
- รองรับการใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์, Pocket PC
- เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ทำให้สามารถค้นหาเพื่อนใหม่ๆได้ง่ายๆ จากทั่วโลก
- สามารถโทรเข้าจากโทรศัพท์พื้นฐานเข้ามายัง Skype ได้ (SkypeIn)
- สามารถโทรออกจาก Skype เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานได้ (SkypeOut)
- สามารถโอนสายเรียกจาก Skype เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานปลายทางได้ (เฉพาะลูกค้าที่ใช้ SkypeOut)

ประเภทบริการของ Skype
1. โทรระหว่างสมาชิก Skpye ด้วยกันเอง (PC-to-PC) เป็นบริการฟรี
2. โทรไปยังเบอร์โทรศัพท์ทั่วไปหรือโทรมาจากโทรศัพท์ทั่วไป (PC-to-Phone และ Phone-to-PC) แบ่งเป็น
- SkypeIn คือ การสมัครเบอร์ของ Skype เพื่อรองรับการโทรเข้าจากโทรศัพท์พื้นฐานทั่วโลกในราคาประหยัด
- SkypeOut คือ การสมัครใช้บริการของ Skype เพื่อโทรออกจาก Skype ไปยังโทรศัพท์พื้นฐานทั่วโลกและ ที่พิเศษกว่านั้นคือ ผู้ใช้งานที่ลงทะเบียน SkypeOut สามารถ Forward Skype ของคุณ เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานที่คุณต้องการได้ในขณะที่คุณ Offline เมื่อมีผู้โทรเข้า Skype ของคุณ ช่วยทำให้คุณไม่พลาดการติดต่อ